งานนี้บอกได้อย่างเดียวว่าแมนฯ ยูไนเต็ด ทำ 2 แต้มหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่พวกเขาสามารถคุมเกมได้โดยตลอด และมีโอกาสบุกมากกว่าทีมเจ้าบ้าน แต่ก็ทำได้เพียงเสมอ 2 – 2 หลังจาก พอล สโคลส์ ยิงประตูที่ 2 ในแมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว 3 แต้มก็น่าจะอยู่กับทีมปีศาจแดง แต่พวกเขากลับผ่อนเกมและทำให้ นิวคาสเซิล ก็คว้าโอกาสนี้ทำประตูตีเสมอ
เกมนี้เริ่มต้นอย่างช้าๆ และเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ เซอร์ อเล็กซ์ เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากนัดที่ชนะเรดดิ้ง ถึง 7 คน และเหลือเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ยังได้ลงเป็นตัวจริง เนมานย่า วิดิช และพอล สโคลส์ ได้กลับมาลงเล่นอีกครั้งหลังจากโดนแบนในนัดที่แล้ว ในขณะที่ ไรอัน กิ๊กส์, หลุยส์ ซาฮา, แกรี่ เนวิลล์, ปาทริซ เอฟร่า และดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ก็กลับมาลงสนามในนัดนี้
ส่วน นิวคาสเซิล มีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากมาย จึงต้องส่ง โนลแบร์โต้ โซลาโน่ ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา
แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง ลูกยิงของกิ๊กส์ ในช่วง 10 นาทีแรกแต่หลุดออกนอกกรอบไป จากนั้นเขาก็มีโอกาสจ่ายบอลให้ซาฮา ทำประตูแต่ เชย์ กิฟเว่น ผู้รักษาประตูทีมเจ้าบ้านก็ป้องกันไว้ได้
อย่างไรก็ดี นิวคาสเซิล ก็มีโอกาสบ้าง เมื่อดายเออร์ ทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงป้องกันลูกยิงของเขา จากนั้นในนาทีที่ 33 มิลเนอร์ ก็ได้โอกาสลากบอลตัดเข้ากลาง และยิงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมไปอย่างสวยงาม นิวคาสเซิล ขึ้นนำ 1 – 0
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพบข่าวร้ายเมื่อ ซาฮา ได้รับบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบต้องเปลี่ยนตัวออกไปในนาทีที่ 35 เฟอร์กี้ จึงส่ง พาร์ค ลงเล่นแทน จากนั้น ในนาทีที่ 38 โรนัลโด้ ก็เปิดบอลให้ รูนี่ย์ ยิง แต่ กิฟเว่น ก็ป้องกันไว้ได้
แต่ทีมปีศาจแดงก็ยังรักษาฟอร์มการเล่นไว้ได้ เมื่อ สโคลส์ จ่ายบอลให้กับ เฟล็ตเชอร์ และกิ๊กส์ และวิ่งตามไปรับบอลที่กรอบเขตโทษ และยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ ในนาทีที่ 40 ซึ่งนับเป็นประตูที่ 10 ที่เขายิง นิวคาสเซิล ได้
เกมในครึ่งแรกยังไม่จบเมื่อทั้งสองทีมต่างก็ได้บุก และในนาทีที่ 45 ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ต้องออกแรงป้องกันลูกโหม่งของ ซิเบียร์สกี้ จากนั้น พาร์ค จีซุง ก็ได้ยิงแต่บอลกลับชนเสา หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1 – 1
เริ่มครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเต็มที่และได้ประตูขึ้นนำทันทีที่เริ่มเกมได้ไม่ถึง 30 วินาที เมื่อ พาร์ค เปิดบอลให้ โรนัลโด้ และปีกชาวโปรตุเกสไหลต่อให้ สโคลส์ ยิงผ่านกองหลังและผู้รักษาประตูทีมเจ้าบ้านเข้าไปอย่างสวยงาม แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2 – 1
หลังจากนั้นตลอดช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่อง แต่นิวคาสเซิล เล่นช้าลงและทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มผ่อนเกมบ้าง และนั่นก็ส่งผลให้นิวคาสเซิล ได้บุกมากขึ้น จนกระทั่งนาทีที่ 74 พวกเขาก็สามารถทำประตูตีเสมอได้ เมื่อดาบิด เอ็ดการ์ กองหลังดาวรุ่งของทีมเจ้าบ้านได้ยิงไกล บอลแฉลบสโคล และพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 83 แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสทำประตูเมื่อ กิ๊กส์ เปิดลูกเตะมุมมาเข้าหัว โรนัลโด้ ได้โหม่งเต็มๆ แต่กลับถูก โซลาโน่ โหม่งสกัดออกมาจากเส้นประตูไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกมทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ เสมอกันไป 2 – 2 แบ่งกันไปทีมจะ 1 คะแนน (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
เชย์ กิฟเว่น 1
สตีเว่น เทย์เลอร์ 27
พอล ฮันติงตัน 32
ดาบิด เอ็ดการ์ 30 ( น. 74)
โนลแบร์โต้ โซลาโน่ 4
คีรอน ดายเออร์ 8
สก็อตต์ พาร์คเกอร์ 17 ( น. 82)
เอ็มเร่ เบโลโซกลู 5
เจมส์ มิลเนอร์ 16 ( น. 33)
อองตวน ซิเบียร์สกี้ 20
โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ 9
สำรอง
พาเวล เซอร์นิเช็ก 24
แอนดรูว์ คาร์โรลล์ 39
แม็ทธิว แพทติสัน 35 น. 87 เอ็มเร่ เบโลโซกลู 5
อลัน โอไบรอัน 37
อัลเบิร์ต ลูเก้ 7
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
แกรี่ เนวิลล์ 2 ( น. 61)
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เนมานย่า วิดิช 15
ปาทริซ เอฟร่า 3
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พอล สโคลส์ 18 ( น. 35)( น. 40, 46)
ไรอัน กิ๊กส์ 11
เวย์น รูนี่ย์ 8
หลุยส์ ซาฮา 9
สำรอง
ทอม ฮีตั้น 38
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
จอห์น โอเชีย 22
ไมเคิล คาร์ริค 16 น. 77 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พาร์ค จีซุง 13 น. 36 หลุยส์ ซาฮา 9
สถิติของเกม
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ประตู 2, ยิงตรงกรอบ 7, โดนบล็อค 1, เตะมุม 1, ฟาวล์ 11, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 1, การครองบอล 44.3%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 2, ยิงตรงกรอบ 5, ยิงหลุดกรอบ 13, โดนบล็อค 5, เตะมุม 10, ฟาวล์ 10, ใบเหลือง 2, การครองบอล 55.7%
คะแนนความสามารถ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เชย์ กิฟเว่น 8, สตีเว่น เทย์เลอร์ 7, พอล ฮันติงตัน 7, ดาบิด เอ็ดการ์ 7, โนลแบร์โต้ โซลาโน่ 8, คีรอน ดายเออร์ 6, สก็อตต์ พาร์คเกอร์ 7, เอ็มเร่ เบโลโซกลู 6, เจมส์ มิลเนอร์ 8, อองตวน ซิเบียร์สกี้ 6, โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ 7, แม็ทธิว แพทติสัน (สำรอง) 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, แกรี่ เนวิลล์ 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เนมานย่า วิดิช 8, ปาทริซ เอฟร่า 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6, พอล สโคลส์ 9, ไรอัน กิ๊กส์ 7, เวย์น รูนี่ย์ 7, หลุยส์ ซาฮา 7, ไมเคิล คาร์ริค (สำรอง) 6, พาร์ค จีซุง (สำรอง) 7
Por